IPHONE 13

คำอธิบาย

iPhone 13 ยังคงใช้ดีไซน์ขอบเรียบเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้คือรอยบาก (Notch) ที่เล็กลง และการจัดวางกล้องหลังใหม่ในแนวทแยงสำหรับรุ่นธรรมดาและ mini ส่วนหัวใจหลักคือการอัปเกรดชิป A15 Bionic และเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นไปอีกระดับ

คุณสมบัติเด่น (สิ่งที่พัฒนาจาก iPhone 12)

• ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น: เพิ่มประสิทธิภาพ CPU และ GPU ให้เร็วแรงกว่าเดิม แต่ที่สำคัญคือประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบตเตอรี่อึดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• จอภาพที่สว่างกว่าเดิมและรอยบาก (Notch) ที่เล็กลง: จอภาพ Super Retina XDR สว่างขึ้น 28% ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้ดีขึ้น และการลดขนาดรอยบากลง 20% ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอเล็กน้อย
• ระบบกล้องที่ฉลาดและเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด:
  • เซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ขึ้น: รับแสงได้ดีขึ้นถึง 47% ทำให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยมีรายละเอียดดีขึ้นและมี Noise น้อยลง
  • ระบบกันสั่น Sensor-shift OIS: เทคโนโลยีกันสั่นที่ตัวเซ็นเซอร์ (จากเดิมมีแค่ในรุ่น 12 Pro Max) ถูกนำมาใช้ใน iPhone 13 ทุกรุ่น ทำให้วิดีโอและภาพนิ่งมีความนิ่งและคมชัดยิ่งขึ้น
  • โหมดภาพยนตร์ (Cinematic Mode): ฟีเจอร์เด่นที่สุด สามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ และสลับโฟกัสระหว่างบุคคลได้อย่างนุ่มนวลเหมือนในภาพยนตร์
  • สไตล์ภาพถ่าย (Photographic Styles): ฟิลเตอร์อัจฉริยะที่ให้คุณปรับโทนสีของภาพได้ตามสไตล์ที่ชอบ โดยยังคงสีผิวที่เป็นธรรมชาติไว้
• แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น: นี่คือจุดแข็งที่สุดของ iPhone 13 ที่ผู้ใช้ทุกคนชื่นชอบ ด้วยชิปที่ประหยัดพลังงานและการจัดการที่ดีขึ้น ทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 12 อย่างชัดเจน
• ความจุเริ่มต้น 128GB: Apple ได้ยกเลิกความจุ 64GB และเริ่มต้นที่ 128GB สำหรับ iPhone 13 ทุกรุ่น

รุ่นต่างๆ ในซีรีส์ iPhone 13

เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า มีทั้งหมด 4 รุ่น:

1. iPhone 13 mini: สเปกหลักเหมือน iPhone 13 ในขนาดที่เล็กและแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นกว่า 12 mini
2. iPhone 13: รุ่นมาตรฐานที่ลงตัวที่สุด ทั้งขนาดจอ 6.1 นิ้วและประสิทธิภาพ
3. iPhone 13 Pro และ 13 Pro Max: รุ่นท็อปที่มาพร้อมความพิเศษดังนี้:
   • จอภาพ ProMotion: เทคโนโลยีจอภาพอัจฉริยะที่ปรับอัตรารีเฟรชได้ตั้งแต่ 10Hz ถึง 120Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอและการเล่นเกมลื่นไหลสุดๆ
   • กล้องระดับโปร: เพิ่มเลนส์ Telephoto, ถ่ายภาพ Macro (มาโคร) ในระยะใกล้สุด 2 ซม. ได้, และรองรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงระดับ ProRes

ราคา iPhone 13 มือสอง (ณ ตุลาคม 2568)

ในตลาดมือสอง iPhone 13 เป็นรุ่นที่คนหาเยอะมาก เพราะได้สเปกที่ยังทันสมัยและแบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่า

• iPhone 13 (128GB): ราคาประมาณ 12,000 – 14,500 บาท
• iPhone 13 (256GB): ราคาประมาณ 14,000 – 16,500 บาท
• iPhone 13 (512GB): ราคาประมาณ 16,000 – 18,000 บาท

หมายเหตุ: ราคาสำหรับรุ่น Pro และ Pro Max จะสูงกว่านี้ และราคาโดยรวมอาจแตกต่างกันไปตามสภาพเครื่องและสุขภาพแบตเตอรี่

สรุป: หากคุณมองหามือถือที่ประสิทธิภาพยังแรงเหลือๆ, กล้องมีลูกเล่นที่น่าสนใจอย่าง Cinematic Mode, และต้องการแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันแบบสบายใจ iPhone 13 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์และคุ้มค่ามาก ในปี 2568 ครับ